นายกเทศมนตรีนครตรังลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสวนสาธารณะแห่งใหม่ใจกลางเมือง >>>>
ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างสวนสาธารณะแห่งใหม่ของเทศบาลนครตรัง “ โครงการก่อสร้างสวนสาธารณะเทศบาลนครตรัง” ซึ่งตั้งอยู่บริเวณฝั่งตรงข้ามสวนสาธารณะอนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภัคดี โดยโครงการนี้จะเป็นพื้นที่สีเขียวแห่งใหม่ที่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อการพักผ่อนและออกกำลังกายของประชาชน ด้วยงบประมาณจากเงินสะสมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงินค่าก่อสร้างตามสัญญา 41,240,000 บาท
ภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน อาทิ ลานอเนกประสงค์ ลานประติมากรรม สนามเด็กเล่น ศาลาพักผ่อน ทางเดินริมน้ำที่สวยงาม ลานจอดรถ ศาลารอรถโดยสาร อาคารห้องน้ำ อาคารร้านค้า และลานกีฬากลางแจ้ง นอกจากนี้ยังมีการปรับภูมิทัศน์และติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่างตามแบบมาตรฐานของกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยโครงการได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 และมีกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 รวมระยะเวลาก่อสร้าง 360 วัน
ดร.สัญญา กล่าวว่า "โครงการก่อสร้างสวนสาธารณะแห่งนี้เป็นการต่อยอดพื้นที่พักผ่อนจากสวนสาธารณะอนุสาวรีย์พระยารัษฎาฯ เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนที่เพิ่มขึ้น เมื่อแล้วเสร็จจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกายที่ได้มาตรฐาน ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน อีกทั้งยังเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวและตอกย้ำอัตลักษณ์ความเป็นเมืองตรังได้เป็นอย่างดี"
ภายในสวนสาธารณะแห่งนี้ประกอบด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน อาทิ ลานอเนกประสงค์ ลานประติมากรรม สนามเด็กเล่น ศาลาพักผ่อน ทางเดินริมน้ำที่สวยงาม ลานจอดรถ ศาลารอรถโดยสาร อาคารห้องน้ำ อาคารร้านค้า และลานกีฬากลางแจ้ง นอกจากนี้ยังมีการปรับภูมิทัศน์และติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่างตามแบบมาตรฐานของกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยโครงการได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน 2567 และมีกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 รวมระยะเวลาก่อสร้าง 360 วัน
ดร.สัญญา กล่าวว่า "โครงการก่อสร้างสวนสาธารณะแห่งนี้เป็นการต่อยอดพื้นที่พักผ่อนจากสวนสาธารณะอนุสาวรีย์พระยารัษฎาฯ เพื่อรองรับความต้องการของประชาชนที่เพิ่มขึ้น เมื่อแล้วเสร็จจะเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและออกกำลังกายที่ได้มาตรฐาน ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชน อีกทั้งยังเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวและตอกย้ำอัตลักษณ์ความเป็นเมืองตรังได้เป็นอย่างดี"