Cover4.jpg

โบสถ์ คริสต์

คริสต์ศาสนาในจังหวัดตรัง

          คริสตชนในจังหวัดตรังเริ่มแรกจำกัดอยู่ในหมู่ตลาดของเขตตรังเมือง ต่อมาจึงแพร่หลายออกไปตามเขตอื่นบ้าง แต่ไม่มาก คือไม่ถึงร้อยละ 1 ของประชากรทั้งหมด และยังแบ่งเป็น 2 นิกาย ได้แก่ โปรเตสแตนต์ กับโรมันคาทอลิก

 


 

          นิกายโปรเตสแตนต์ เป็นนิกายที่ยึดพระคัมภีร์ไบเบิ้ลเป็นหลัก และไม่ผูกพันกับอำนาจของพระสันตปาปา ความเป็นมาของคริสตจักรในจังหวัดตรังจากคำบอกเล่า กล่าวว่า เริ่มจาก Mr.John Carrington จากคณะ American Bible Society เข้ามาเป็นคนแรก ต่อมาในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2453 Dr.Eugene P.Dunlap และ Dr.I.C.Bulkley ได้ก่อตั้งสถานีประกาศขึ้นโดยใช้สถานที่โรงพยาบาลทับเที่ยง แล้วตั้งเป็นคริสตจักรตรังในอีก 2 ปี ต่อมา มีสมาชิกแรกเริ่ม 100 คนเศษ
          ใน พ.ศ. 2456 คริสตจักรตรังสร้างโบสถ์แห่งแรกที่ทับเที่ยง ในที่ดินซึ่งซื้อไว้ในคราวเดียวกับการจัดซื้อที่ทำสุสานคริสเตียน โดยสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงอนุญาตให้ทางคริสตจักรซื้อที่ดินและสร้างโบสถ์ขึ้น ตัวโบสถ์สร้างด้วย ไม้ไผ่ หลังคามุงจากต่อมาในปี พ.ศ.2458 จึงได้สร้างวิหารเป็นอาคารถาวร ก่ออิฐถือปูน พร้อมหอระฆัง หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2527 คริสตจักรตรังได้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ตั้งโบสถ์จากคณะอเมริกันเพรสไปเทอเรียนมิชชั่น แล้วตั้งเป็นคริสตจักรภาคที่ 17 ต่อมาในปี พ.ศ. 2533 มีการสร้างอาคารนมัสการหลังใหม่แต่วิหารหลังนี้ยังคงใช้ในการประกอบพิธีกรรมเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
          วิหาร คริสตจักรตรัง เป็นอาคารชั้นเดียว ขนาดเล็ก ลักษณะการก่อสร้างเป็นแบบก่ออิฐระบบกำแพงรับน้ำหนักผนังหน้าอาคารสร้างบนฐานยกพื้นสูงประมาณ 0.80 เมตร มีบันไดทางขึ้นทั้งด้านหน้าและด้านหลังอาคาร ผังพื้นอาคารเป็น รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า แบ่งพื้นที่เป็น 3 ส่วน คือ โถงระเบียงหน้า โถงชุมนุม และส่วนศักดิ์สิทธิ์อยู่ต่อจากโถงชุมนุมเป็นยกพื้นสูงด้านหน้าอาคารแบ่งเป็น 3 ช่วงเสา ช่วงเสากลางอาคารเป็นซุ้มโค้งทางเข้าวิหาร เหนือซุ้มโค้งมีปูนปั้นเขียนว่า วิหาร คริสศาสนาสร้าง ค.ศ.1915 ช่วงเสาด้านข้างด้านหนึ่งเป็นหอระฆังสูง 3 ชั้น ด้านข้างอาคารแบ่งเป็น 7 ช่วงเสา ทุกช่วงเสามีหน้าต่างไม้บานเปิดคู่ ส่วนด้านหลังอาคารแบ่งเป็น 2 ช่วงเสา มีประตูบานเปิดคู่ และบันไดทางขึ้นลง อยู่กึ่งกลางช่วงเสาทั้ง 2 หลังคา หอระฆังเป็นรูปทรงปิรามิด หลังคาโถงชุมนุมเป็นหลังคาจั่ว ทั้งหมดมุงด้วยกระเบื้องซีเมนต์รูปว่าว แต่เดิมนั้นหอระฆังเป็นเพียงดาดฟ้า มีลักษณะคล้ายกับป้อมทหารสมัยโบราณ หลังจากนั้นมีปรับปรุงใหม่ เนื่องจากระฆังที่อยู่ในหอระฆังชั้นที่สอง ดังก้องมากเกินไป จึงเพิ่มชั้นบนขึ้นเช่นที่เห็นในปัจจุบัน การตกแต่งอาคารมีไม่มากส่วนใหญ่เป็นการเน้นด้วยลายปูนปั้นที่กรอบประตูหน้าต่าง
          ในปี พ.ศ. 2550 มีการบูรณะปรับปรุงวิหารครั้งใหญ่ และมีการติดตั้งอุปกรณ์อาคารเพิ่มเติม อาทิเครื่องปรับอากาศและระบบไฟฟ้า การบูรณะสามารถรักษารูปแบบดั้งเดิมของตัวอาคาร คุณค่าทางประวัติศาสตร์และคุณค่าสถาปัตยกรรมไว้ได้เป็นอย่างดี มีอักษรจารึกไว้เหนือบันไดทางเข้าข้างหน้าว่า “วิหารคริสตศาสนา สร้างค.ศ. 1915 ” ปัจจุบัน วิหาร คริสตจักรตรัง ยังคงใช้สำหรับประกอบพิธีทางศาสนาต่างๆ พร้อมทั้งยังดำเนินงานเพื่อสืบทอดศาสนาทั้งในด้านการศึกษาในการให้ถ่ายทอดความรู้ข้อพระคัมภีร์แก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป


          ในยุคต้นของการเผยแผ่ศาสนา มี Dr.dunlap Mr.Snyder และ Rev.Charles Hoch เป็นผู้ดูแลกิจการ คริสตชนตรังส่วนใหญ่เป็นหมู่ตลาดเชื้อสายจีน จึงต้องใช้ภาษาจีนเกือบทุกครั้งในการประชุมนมัสการที่โบสถ์ จนประมาณพ.ศ. 2480 เมื่อ ศาสนาจารย์สุข พงศน้อย มาเป็นศิษยาภิบาล เวลานั้นการนับถือคริสตศาสนาขยายไปสู่ชาวตรังกลุ่มอื่นๆมากขึ้น ชาวตรังเชื้อสายจีนรุ่นใหม่พูดภาษาไทยได้มากขึ้น การประชุมนมัสการและการเทศนาธรรมจึงเปลี่ยนมาใช้ภาษาไทย
          กิจกรรมด้านศาสนาของคริสตชนตรังเกิดการชะงักงันในปี พ.ศ. 2485 เพราะผลกระทบจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ก็ได้รับการฟื้นฟูใหม่อีกครั้งในปี 2494 ด้วยความเกื้อกูลของ Dr.Song ชาวไต้หวัน ผู้รับภารกิจฟื้นฟูคริสตจักรแถบเอเชียอาคเนย์ จากนั้นก็เจริญเรื่อยมา โดยมีผู้ประกาศคือนายวิลเลียม เชาวน์ชูเวชช์ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงที่สำคัญ ต่อมาใน พ.ศ. 2527 คริสจักรตรังได้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ตั้งโบสถ์จากคณะ American Pressbyterion Mission แล้วตั้งเป็นคริสตจักรภาคที่ 16 ก่อนจะแยกมาตั้งเป็นคริสตจักรภาคที่ 17 ซึ่งมีพิธีสถาปนาจัดขึ้นที่โบสถ์คริสตจักรตรัง (เลขที่ 24 – 26 ถนนห้วยยอด อำเภอเมืองตรัง) เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2534
          ปัจจุบันคริสตจักรภาคที่ 17 มีสมาชิกรวมทั้งสิ้น 12 คริสตจักร อยู่ที่กระบี่ นครศรีธรรมราช และตรังในจังหวัดตรังมีคริสตจักรตรัง (ทับเที่ยง) คริสตจักรกันตัง คริสตจักรห้วยยอด คริสตจักรย่านตาขาว คริสตจักรวังวิเศษ คริสตจักรโคกทราย คริสตจักรโคกม่วง คริสตจักรอ่าวตง มีสมาชิกคริสเตียนในภาคที่ 17 รวมทั้งสิ้นประมาณพันเศษ
          ศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ในจังหวัดตรังก็เช่นเดียวกับคริสเตียนที่อื่นๆโดยทั่วไป กล่าวคือ ศรัทธาในเรื่องความรอดโดยพระคุณและความเชื่อผ่านทางพระเยซู ยึดในศาสนบัญญัติที่สำคัญ 2 ประการ คือ รักพระเจ้าด้วยสุดหัวใจ สุดจิต สุดกำลัง และสุดความคิดและรักเพื่อนบ้านเหมือนรักตนเอง ประกอบศาสนพิธีโดยถือหลักความบริสุทธิแห่งจิตวิญญาณและพิธีการที่เรียบง่าย มีศาสนพิธีสำคัญ 2 ประการที่ถือปฏิบัติ คือ พิธีมหาสนิท (Communion) และพิธีบัพติสม์ (Baptism)
          คริสเตียนชาวตรังดำเนินชีวิตอยู่ในกรอบศีลธรรมตามบทบัญญัติในพระคัมภีร์ได้ค่อนข้างสมบูรณ์ และได้ประยุกต์ธรรมเนียมปฏิบัติบางประการให้กลมกลืนกับขนบธรรมเนียมประเพณีและค่านิยมของท้องถิ่น เช่น การประกอบพิธีมงคลสมรสที่โบสถ์บางแห่ง จะจัดให้คู่บ่าวสาวซึ่งต้องเป็นคริสเตียนทั้งคู่กราบคารวะบิดามารดา ยกน้ำชาไหว้ญาติผู้ใหญ่ตามแบบจีนหรืออาจมีผูกผ้าแก่คู่บ่าวสาว ในพิธีศพจะมีการจัดเลี้ยงตามแบบท้องถิ่นตรังด้วย ส่วนพิธีสวดและฝังจะเป็นแบบคริสเตียน
          ในด้านการศึกษาและถ่ายทอดหลักศาสนา ทุกวันอาทิตย์ในการประชุมนมัสการที่โบสถ์ ศาสนาจารย์ ผู้ปกครอง หรือศิษยาภิบาลจะหนุนใจคริสเตียนและให้ความรู้เกี่ยวกับข้อพระคัมภีร์ ประมาณครึ่งหนึ่งของคริสตชนในตรังสนใจประกอบกิจสม่ำเสมอ ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มอาสาสมัครเปิดสอนนรวีวารศึกษา (Sunday
School) แก่เด็กๆ มีการประชุมกลุ่มย่อยเพื่อหนุนใจและสอนพระคัมภีร์ (Cell group, Care group) ตามบ้านธรรมศาลา และโรงเรียนคริสเตียนต่างๆ ด้วย นับเป็นการเติบโตอย่างต่อเนื่องและเป็นธรรมชาติ
          คริสตศาสนานิกายโปรเตสแตนต์ในจังหวัดตรัง ได้หยั่งรากอยู่ในจังหวัดตรังประมาณ 90 ปีแล้ว พร้อมๆ กับกิจกรรมบริการสังคมด้านการแพทย์และการศึกษา โดยมีโรงพยาบาลทับเที่ยง โรงเรียนอนุกูลสตรีทับเที่ยงและโรงเรียนยุวราษฎร์วิทยา ( ปัจจุบันได้รวมกันเป็นโรงเรียนตรังคริสเตียนศึกษา) เป็นเครือข่ายให้บริการแก่ชุมชนชาวตรังจนเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง
          ศิตยาภิบาลปัจจุบัน ชื่อ พรสรวง จิตต์แจ้ง กรรมการอ านวยการสภาฯ ภาค 17

 



          นิกายคาทอลิก ในตรังเริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2495 หลังจากสงครามคอมมิวนิสต์ในประเทศจีน คณะบาทหลวงมิชชันนารีสติกมาตินชาวอิตาเลียนจำนวน 5 คน เดินทางจากประเทศจีน เนื่องจากถูกรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีนขับไล่ออกจากประเทศ คณะบาทหลวงได้เดินทางมาเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในเชตมิสซังโรมันคาทอลิกราชบุรี และได้รับมอบหมายให้ทำงานเผยแผ่ในเขต 5 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต ระนอง ตรัง กระบี่ และพังงา โดยจัดให้มีกิจการโบสถ์และโรงเรียนขึ้นในพื้นที่ที่มีคณะทำงานในแต่ละจังหวัด ปัจจุบันที่จังหวัดตรังนั้น มีโบสถ์คาทอลิกนักบุญฟรังซิสเซเวียร์และโรงเรียนดรุโณทัยอยู่ในสังฆมณฑลสุราษฎร์ธานี
          โบสถ์นักบุญฟรังซิสเซเวียร์ ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 49 ถนนเจิมปัญญา อำเภอเมืองตรัง ก่อตั้งใน พ.ศ. 2504 (ค.ศ. 1961) โดย บาทหลวงยอห์น เซเรซัตโต หนึ่งในจำนวน 5 คนแรกของมิชชันนารีสติกมาตินชาวอิตาเลียนเขตมิสซังโรมันคาทอลิกสุราษฎร์ธานี ได้เข้ามาบุกเบิกงานเผยแผ่ในจังหวัดตรัง เริ่มจากครอบครัวคาทอลิกในพื้นที่จำนวนเพียงไม่กี่คน จนปัจจุบันมีคริสตชนคาทอลิกในจังหวัดตรังประมาณ 200 คน และยังมีงานบริการทางการศึกษาแก่ชุมชน คือ โรงเรียนดรุโณทัย อยู่ในอำเภอเมืองตรัง ซึ่งเปิดสอนมาตั้งแต่ พ.ศ. 2510 (ค.ศ.1967) กิจการของศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิกเจริญขึ้นเรื่อยมาตามลำดับจนปัจจุบัน