นครตรังยกระดับกะพังสุรินทร์สู่แลนด์มาร์คใหม่ เตรียมเปิดโชว์น้ำพุเต้นระบำผสานเทคโนโลยีแสงสีเสียงแห่งแรกของภาคใต้ >>>>
>>> ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง พร้อมคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล และตัวแทนประชาชนชาวกะพังสุรินทร์ ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาสวนสาธารณะกะพังสุรินทร์ มูลค่า 29 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของจังหวัดตรัง
ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง เปิดเผยว่า โครงการนี้เป็นการปรับปรุงภูมิทัศน์แบบครบวงจร ประกอบด้วยงานสถาปัตยกรรม งานวิศวกรรม และงานสื่อภาพและเสียง โดยไฮไลท์สำคัญคือการติดตั้งทุ่นประกอบน้ำพุกลางสระกะพังสุรินทร์ พร้อมเครื่องฉายที่ติดตั้งบนหอคอยด้านในสวนสาธารณะ ซึ่งจะสามารถฉายภาพระยะไกลผ่านม่านน้ำขนาดใหญ่กลางสระ ผสานการแสดงน้ำพุเต้นระบำประกอบดนตรี โดยประชาชนสามารถรับชมได้จากลานชมการแสดงริมฝั่งถนนเวียนกะพังสุรินทร์
โครงการดังกล่าวใช้งบประมาณจากเงินสะสมประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงินค่าก่อสร้าง 29,440,000 บาท โดยได้ว่าจ้างกิจการร่วมค้า สิงหา 20 เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง ภายใต้สัญญาจ้างเลขที่ 34/2567 มีระยะเวลาดำเนินการ 210 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2567 และมีกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 7 มีนาคม 2568
สำหรับ"โครงการน้ำพุดนตรีกะพังสุรินทร์จะเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดตรัง ที่จะช่วยสร้างสีสันและความประทับใจให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาเยือน อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาพื้นที่สาธารณะให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชน ผมมั่นใจว่าเมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับชุมชนโดยรอบได้อย่างมาก" นายกเทศมนตรีนครตรังกล่าว
จากการรายงานความคืบหน้า ณ วันที่ 6 มกราคม 2568 พบว่าโครงการมีความคืบหน้าไปแล้ว 37% โดยได้มีการส่งมอบและตรวจรับงานแล้ว 2 งวด คิดเป็นมูลค่า 5,867,490 บาท จากทั้งหมด 6 งวดงาน ขณะนี้เหลือระยะเวลาดำเนินการอีก 63 วัน และยังคงต้องเร่งดำเนินการในส่วนที่เหลืออีก 4 งวดงาน คิดเป็นมูลค่า 23,572,510 บาท โดยคาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนมีนาคม 2568
ทั้งนี้ สวนสาธารณะกะพังสุรินทร์เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองตรัง มีพื้นที่กว่า 46 ไร่ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ปัจจุบันเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด การพัฒนาระบบน้ำพุดนตรีในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดตรังได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
ดร.สัญญา ศรีวิเชียร นายกเทศมนตรีนครตรัง เปิดเผยว่า โครงการนี้เป็นการปรับปรุงภูมิทัศน์แบบครบวงจร ประกอบด้วยงานสถาปัตยกรรม งานวิศวกรรม และงานสื่อภาพและเสียง โดยไฮไลท์สำคัญคือการติดตั้งทุ่นประกอบน้ำพุกลางสระกะพังสุรินทร์ พร้อมเครื่องฉายที่ติดตั้งบนหอคอยด้านในสวนสาธารณะ ซึ่งจะสามารถฉายภาพระยะไกลผ่านม่านน้ำขนาดใหญ่กลางสระ ผสานการแสดงน้ำพุเต้นระบำประกอบดนตรี โดยประชาชนสามารถรับชมได้จากลานชมการแสดงริมฝั่งถนนเวียนกะพังสุรินทร์
โครงการดังกล่าวใช้งบประมาณจากเงินสะสมประจำปีงบประมาณ 2567 วงเงินค่าก่อสร้าง 29,440,000 บาท โดยได้ว่าจ้างกิจการร่วมค้า สิงหา 20 เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง ภายใต้สัญญาจ้างเลขที่ 34/2567 มีระยะเวลาดำเนินการ 210 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2567 และมีกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 7 มีนาคม 2568
สำหรับ"โครงการน้ำพุดนตรีกะพังสุรินทร์จะเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของจังหวัดตรัง ที่จะช่วยสร้างสีสันและความประทับใจให้แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาเยือน อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาพื้นที่สาธารณะให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อชุมชน ผมมั่นใจว่าเมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับชุมชนโดยรอบได้อย่างมาก" นายกเทศมนตรีนครตรังกล่าว
จากการรายงานความคืบหน้า ณ วันที่ 6 มกราคม 2568 พบว่าโครงการมีความคืบหน้าไปแล้ว 37% โดยได้มีการส่งมอบและตรวจรับงานแล้ว 2 งวด คิดเป็นมูลค่า 5,867,490 บาท จากทั้งหมด 6 งวดงาน ขณะนี้เหลือระยะเวลาดำเนินการอีก 63 วัน และยังคงต้องเร่งดำเนินการในส่วนที่เหลืออีก 4 งวดงาน คิดเป็นมูลค่า 23,572,510 บาท โดยคาดว่าโครงการจะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนมีนาคม 2568
ทั้งนี้ สวนสาธารณะกะพังสุรินทร์เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองตรัง มีพื้นที่กว่า 46 ไร่ มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี ปัจจุบันเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจและแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัด การพัฒนาระบบน้ำพุดนตรีในครั้งนี้จะช่วยเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดตรังได้อย่างมีประสิทธิภาพ.